หลักการเลือกโรงพิมพ์ 


หลักการเลือกโรงพิมพ์

 
หลักการเลือกโรงพิมพ์
ก่อนที่จะเลือกโรงพิมพ์ ท่านต้องดูก่อนว่างานพิมพ์ของท่านเหมาะสมกับระบบการพิมพ์อะไร ซึ่งประเภทของการพิมพ์ที่แบ่งตามลักษณะของการพิมพ์สามารถจัดได้เป็นดังนี้
 
การพิมพ์ออฟเซ็ท (Offset Printing) เป็นการพิมพ์พื้นราบที่ใช้หลักการน้ำกับน้ำมันไม่รวมตัวกัน โดยสร้างเยื่อน้ำไปเกาะอยู่บนบริเวณไร้ภาพของแผ่นแม่พิมพ์ เมื่อรับหมึก หมึกจะไม่เกาะน้ำแต่จะไปเกาะบริเวณที่เป็นภาพแล้วถูกถ่ายลงบนผ้ายางและกระดาษพิมพ์ต่อไป การพิมพ์ออฟเซ็ทสามารถผลิตงานพิมพ์ที่มีคุณภาพสูงจนถึงสูงมาก เครื่องพิมพ์มีหลายขนาด มีทั้งเครื่องพิมพ์ 1 สี 2 สี 4 สี 5 สี หรือมากกว่านั้น  ตัวอย่างงานพิมพ์ออฟเซ็ท เช่น พิมพ์แผ่นพับ พิมพ์ใบปลิว พิมพ์หนังสือ พิมพ์วารสาร พิมพ์นิตยสาร พิมพ์โบรชัวร์  พิมพ์แคตตาล็อก บรรจุภัณฑ์กระดาษ งานพิมพ์ใช้ในสำนักงาน ฯลฯ
       

การพิมพ์เลตเตอร์เพรสส์ (Letterpress Printing)  เป็นการพิมพ์พื้นนูนที่ใช้แม่พิมพ์ทำจากโลหะผสมหรือพอลิเมอร์อย่างหนากัดผิวจนเหลือส่วนที่เป็นภาพนูนสำหรับรับหมึกพิมพ์แล้วถ่ายทอดลงบนวัสดุที่ใช้พิมพ์โดยใช้วิธีกดทับ ในยุคก่อนมีการใช้ตัวอักษรโลหะเป็นตัว ๆ มาจัดเรียงเป็นข้อความที่ต้องการแล้วใช้เป็นแม่พิมพ์ การพิมพ์เลตเตอร์เพรสส์มีมาช้านานเก่าแก่มาก ในปัจจุบันมีการพิมพ์ประเภทนี้เหลืออยู่น้อย เนื่องจากการทำแม่พิมพ์ลำบากและภาพพิมพ์ที่ได้ไม่ค่อยสวยงาม ตัวอย่างงานพิมพ์ประเภทนี้คือ นามบัตร แบบฟอร์ม ฉลาก กล่อง ป้ายและงานพิมพ์อื่น ๆ ที่ไม่ต้องการความละเอียดมาก

การพิมพ์(ซิลค์)สกรีน (Silkscreen Printing) เป็นการพิมพ์พื้นฉลุที่ใช้หลักการพิมพ์โดยให้หมึกซึมทะลุผ่านผ้าที่ขึงตึงไว้ และให้ทะลุผ่านเฉพาะบริเวณที่เป็นภาพ สามารถพิมพ์งานสอดสีได้ ความละเอียดของภาพพิมพ์ขึ้นอยู่กับความถี่ของเส้นใยผ้า สามารถพิมพ์ลงบนวัสดุได้หลากหลากชนิด ทั้งกระดาษ ผ้า ไม้ พลาสติก และพิมพ์บนวัสดุที่มีผิวโค้งได้ ตัวอย่างงานพิมพ์ประเภทนี้คือ นามบัตร บรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ ป้ายกระดาษ/พลาสติก/โลหะ ป้ายโฆษณา เสื้อ ผืนผ้า ถุงพลาสติก ขวด จานชาม ชิ้นส่วนอุปกรณ์ต่าง ๆ
 

การพิมพ์ดิจิตอล (Digital Printing) เป็นการพิมพ์ที่ใช้เครื่องพิมพ์หรือพริ้นเตอร์ต่อพ่วงกับเครื่องคอมพิวเตอร์ สามารถสั่งพิมพ์ได้โดยตรงจากเครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องพิมพ์หรือพริ้นเตอร์ที่ใช้คือ เครื่องพิมพ์อิ้งค์เจ็ทขนาดเล็กและใหญ่ เครื่องพิมพ์เลเซอร์ความเร็วปกติจนถึงความเร็วสูง เครื่องพิมพ์ดิจิตอลใช้หมึกประจุไฟฟ้า ตัวอย่างงานพิมพ์ประเภทนี้คือ งานพิมพ์ที่มีปริมาณไม่มาก เช่น นามบัตร แผ่นพับ ใบปลิว หนังสือ งานพิมพ์ที่มีการเปลี่ยนภาพหรือข้อความบ่อย ๆ เช่น ไดเร็คเมล์ งานพิมพ์ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ (ใช้เครื่องอิ้งค์เจ็ทขนาดใหญ่)
 

การพิมพ์เฟล็กโซกราฟี (Flexography) เป็นการพิมพ์พื้นนูนที่ใช้แผ่นพอลิเมอร์ที่มีความยืดหยุ่นที่ดีเป็นแม่พิมพ์โดยกัดส่วนที่ไม่รับหมึกเว้าลึกลงไป การพิมพ์ในระบบนี้ใช้หลักการคล้ายกับการพิมพ์แบบเลตเตอร์เพรสคือใช้การกดทับ แต่หมึกที่ใช้จะเหลวกว่าและใช้ลูกกลิ้งที่ทำขึ้นเป็นพิเศษทำหน้าที่จ่ายหมึกในปริมาณที่สม่ำเสมอให้กับแม่พิมพ์ การพิมพ์ประเภทนี้ได้รับการพัฒนาจนสามารถพิมพ์ภาพสอดสีได้ แม้คุณภาพงานพิมพ์จะยังเทียบเท่าการพิมพ์แบบออฟเซ็ทไม่ได้ แต่ก็มีใช้ในสิ่งพิมพ์หลาย ๆ ประเภท งานพิมพ์ประเภทนี้คือ กล่องลูกฟูก กล่องกระดาษแข็ง ฉลาก ป้าย กล่องกระดาษ กระดาษชำระ ถุงและซองพลาสติก และงานพิมพ์สอดสี

การพิมพ์กราวัวร์ (Gravure) เป็นการพิมพ์พื้นลึกที่ใช้แม่พิมพ์ที่เป็นร่องลึกสำหรับบริเวณที่เป็นภาพเพื่อเก็บหมึกแล้วไว้ปล่อยลงบนผิวของชิ้นงานพิมพ์ คุณภาพของงานพิมพ์ประเภทนี้อยู่ในเกณฑ์ที่ดี แม่พิมพ์แบบนี้มักเป็นลูกกลิ้งทรงกระบอก ทำด้วยโลหะใช้วิธีกัดผิวทรงกระบอกเป็นหลุมตามบริเวณที่เป็นภาพ จึงทำยากและใช้เวลา อีกทั้งมีค่าใช้จ่ายสูง จึงเหมาะกับงานยาว ๆ งานพิมพ์ประเภทนี้คือ งานพิมพ์ประเภทซองพลาสติกใส่อาหารและขนม และงานพิมพ์บนพลาสติกต่าง ๆ งานพิมพ์ในต่างประเทศบางแห่งมีการพิมพ์แมกกาซีน หนังสือพิมพ์ และงานพิมพ์บนกระดาษที่มีปริมาณพิมพ์สูง

การพิมพ์ประเภทอื่น ๆ นอกจากการพิมพ์ประเภทต่าง ๆ ที่กล่าวมาแล้วนี้ ยังมีการพิมพ์ที่มีลักษณะการพิมพ์แบบอื่น ๆ เช่น การพิมพ์โรเนียว หรือ การพิมพ์สเตนซิล เป็นการพิมพ์พื้นฉลุซึ่งใช้กระดาษไขเป็นแม่พิมพ์ให้หมึกตรงบริเวณที่เป็นภาพสามารถซึมทะลุมายังแผ่นกระดาษที่ต้องการพิมพ์ การพิมพ์แพด เป็นการพิมพ์พื้นลึกซึ่งใช้ยางนิ่มรับหมึกที่เป็นภาพจากแม่พิมพ์ แล้วกดทับบนชิ้นงานซึ่งมีพื้นผิวรูปทรงต่าง ๆ
 
       
ซึ่งทางโรงพิมพ์ บีพีเค พริ้นติ้ง ของเรา ให้บริการทั้งงานพิมพ์ออฟเซ็ท งานพิมพ์ดิจิตอล และงานพิมพ์ซิลค์สกรีน หลังจากที่ท่านรู้ประเภทงานของท่านแล้ว ว่าต้องใช้ระบบการพิมพ์อะไร ต่อมาท่านจึงต้องตัดสินใจเลือกโรงพิมพ์ ซึ่งหลักเกณฑ์ในการพิจารณาเลือกใช้โรงพิมพ์ มีดังนี้


คุณภาพของงาน คุณภาพเป็นเรื่องสำคัญ  งานพิมพ์จากโรงพิมพ์แม้จะถูกเพียงเท่าไร แต่คุณภาพไม่ได้ตามที่ต้องการ ย่อมเป็นผลเสียมากกว่าผลดี ทั้งนี้สิ่งพิมพ์ที่มีคุณภาพย่อมสะท้อนถึงภาพพจน์ (Image) ที่ดีขององค์กร  ความน่าเชื่อถือ ตลอดจนความเป็นสากลขององค์กร ในการคัดเลือกโรงพิมพ์จึงควรตรวจคุณภาพงานพิมพ์ของโรงพิมพ์โดยดูได้จากตัวอย่างงานที่เคยทำ, มาตรฐานคุณภาพ (ทำลิงค์ไปยังหน้า ISO9001) และรายชื่อลูกค้าของโรงพิมพ์ (ทำลิงค์ไปยังหน้าบริการสินค้า) ซึ่งเหล่านี้ก็เป็นหลักประกันได้ระดับหนึ่งถึงคุณภาพผลงานที่ผ่านมา โดยทาง โรงพิมพ์ บีพีเค พริ้นติ้ง ได้รับความไว้วางใช้จากบริษัทระดับโลกใช้บริการอย่างต่อเนื่อง  

ขนาดของโรงพิมพ์ โรงพิมพ์ในประเทศไทยไทยมีจำนวนมากและมีหลายขนาดตั้งแต่ขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ จนถึงใหญ่มาก ซึ่งขนาดของโรงพิมพ์นั้นจะบ่งบอกถึงมาตรฐานในการผลิต ยิ่งโรงพิมพ์ยิ่งใหญ่ โดยมากมาตรฐานในการผลิตก็จะยิ่งสูงมากขึ้น แต่ราคาก็จะสูงขึ้นเป็นเงาตามตัวเนื่องจากต้นทุนในการผลิตที่สูงกว่าโรงพิมพ์ขนาดเล็ก ซึ่งโรงพิมพ์ขนาดเล็กมีข้อได้เปรียบทางด้านราคา เนื่องจาก มีเครื่องจักร และจำนวนพนักงานน้อย แต่มีข้อด้อยที่โดยมากงานจะไม่ได้มาตรฐานและงานช้า เนื่องจากทรัพยากรมีจำกัด ซึ่งทางโรงพิมพ์ บีพีเค พริ้นติ้งของเรา เป็นโรงพิมพ์ขนาดกลางที่พัฒนาระบบจนได้รับมาตรฐานสากลต่างๆ มากมาย แต่ยังคงไว้ซึ่งราคาถูกเทียบเท่าโรงพิมพ์ขนาดเล็ก

การบริการ เป็นเรื่องหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้เรื่องคุณภาพและราคา แต่เป็นสิ่งหนึ่งที่ดูได้ยาก นอกจากจะเคยใช้บริการกันถึงจะรับรู้ได้ แต่สิ่งหนึ่งที่จะดูได้ในเบื้องต้นเกี่ยวกับคุณภาพการบริการนั้น คือมาตรฐานการผลิตว่ามีรองรับหรือไม่ จำนวนเครื่องจักรในการพิมพ์และหลังการพิมพ์ จำนวนพนักงานที่รองรับ ชื่อเสียงโรงพิมพ์ และฐานลูกค้าเก่าของโรงพิมพ์ ซึ่งทางโรงพิมพ์ บีพีเค พริ้นติ้ง ของเรานั้นมีปณิธานที่สำคัญว่า “We are your Printing Partner” เพราะเราไม่เคยมองตัวเราเองว่า เราเป็นโรงพิมพ์ที่ผลิตโรงพิมพ์ให้ลูกค้า แต่เรามองตัวเราเองว่า “เราเป็นส่วนหนึ่งในบริษัทของลูกค้าที่ทำหน้าที่บริการสิ่งพิมพ์” ดังนั้น โรงพิมพ์ของเราจึงได้รับความไว้วางใจจากบริษัทระดับโลก เช่น Sharp และ Panasonic เป็นต้น

การส่งมอบงาน การส่งมอบงานพิมพ์เป็นเรื่องสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีความจำเป็นต้องใช้สิ่งพิมพ์เมื่อถึงกำหนดเวลา ดังนั้นโรงพิมพ์จำต้องเป็นที่ไว้วางใจของลูกค้าในเรื่องการส่งมอบนอกเหนือจากเรื่องคุณภาพของงานพิมพ์ สำหรับโรงพิมพ์ บีพีเค พริ้นติ้ง ของเรา มีเครื่องมือในการผลิตอย่างครบถ้วน คือ มีเครื่องพิมพ์ทั้งหมด 6 แท่น มีเครื่องเข้าเล่มอัตโนมัติ เครื่องไสกาว เครื่องเคลือบ ทั้งการออกแบบ ออกเพลท ไม่ว่าจะเป็นงานก่อนพิมพ์ งานพิมพ์ และงานหลังพิมพ์ เรามีบริการอย่างครบถ้วนสมดั่งเป็นโรงพิมพ์แบบ One-stop printing อย่างแท้จริง ดังนั้น ทางลูกค้าจึงมั่นใจได้ในเรื่องการบริการที่รวดเร็วของเรา
 

ราคา ลูกค้าโดยทั่วไปจะคำนึงถึงเรื่องราคาเป็นปัจจัยแรก แต่ถ้าหากวิเคราะห์หลักการตั้งราคาของโรงพิมพ์จะพบว่า ราคาของงานพิมพ์เริ่มคำนวณจากค่ากระดาษที่ใช้ ค่าทำแม่พิมพ์หรือเพลท ค่าพิมพ์ ค่าใช้จ่ายย่อย ๆ ในขบวนการหลังการพิมพ์ เช่นค่าเคลือบผิว ค่าเก็บเล่มและเข้าเล่ม ค่าปั๊มขึ้นรูป ฯลฯ ซึ่งขบวนการต่างๆ เหล่านี้ ทางโรงพิมพ์ บีพีเค พริ้นติ้งของเรา สามารถทำเองได้เกือบทุกขั้นตอน ทำให้ต้นทุนในการผลิตของเราต่ำกว่าที่อื่น ทำให้ราคาที่เราเสนอแก่ลูกค้าได้ถูกกว่า

 
 
 
ไม่ว่าท่านกำลังเริ่มใช้สิ่งพิมพ์หรือกำลังหางานพิมพ์อยู่หรือมีปัญหางานพิมพ์ โรงพิมพ์ บีพีเค พริ้นติ้งของเรา ซึ่งยึดมั่นในอุดมการณ์ที่จะส่งมอบรวดเร็ว งานพิมพ์มีคุณภาพ ในราคาที่ถูก ยินดีให้คำปรึกษาครับ  อ่านประวัติความเป็นมา ของโรงพิมพ์ของเรา


โรงพิมพ์ครบวงจรอันดับหนึ่ง
เราเป็นโรงงานผู้ผลิตโดยตรงทั้ง
ออฟเซ็ท ดิจิตอล อิงค์เจ็ท สติ๊กเกอร์ม้วน 

 


ข้อมูลโรงพิมพ์

บริษัท บีพีเค พริ้นติ้ง จำกัด     
เลขที่ 951 โครงการกรีนเวอร์ค ซอยสุขสวัสดิ์ 78
ถนน ประชาอุทิศ-วัดคู่สร้าง ทุ่งครุ
 
วันทำการ จันทร์ - เสาร์ เวลา 09.00 - 17.00 น.